Gintama Season 3 (2013) กินทามะ ปี3

Action Animation Comedy Sci-Fi อนิเมะญี่ปุ่น อนิเมะที่จบแล้ว

5.3/10

ดูอนิเมะ Gintama Season 3 (2013) กินทามะ ปี3

691

ขอให้ทุกคนดูหนังให้สนุกนะคะ

เรื่องย่อ : เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคเอโดะ แต่ไม่ใช่เอโดะในประวัติศาสตร์อย่างที่เรารู้จัก เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันของอดีตที่ผสมผสานเข้ากับอนาคตอันแปลกประหลาด เนื่องจากสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่เรียกว่า "อามันโตะ" ได้เดินทางมายังโลกและเข้ายึดครองญี่ปุ่น ทำให้ยุคของซามูไรต้องล่มสลาย อามันโตะได้นำเทคโนโลยีล้ำยุคเข้ามา พร้อมทั้งบังคับให้ซามูไรทุกคนละทิ้งดาบของตนเอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศและจิตวิญญาณของพวกเขา ญี่ปุ่นกลายเป็นเมืองที่ถูกครอบงำโดยผู้รุกรานจากต่างดาวและกลุ่มขุนนางที่สมคบคิดกับพวกมัน ท่ามกลางความวุ่นวายและความเปลี่ยนแปลง ซามูไรที่แท้จริงเพียงไม่กี่คนยังคงยึดมั่นในวิถีของพวกเขา หนึ่งในนั้นคือ "ซากาตะ กินโทกิ" ซากาตะ กินโทกิ เป็นอดีตนักรบที่เคยต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศชาติในสงครามต่อต้านอามันโตะ แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลงและซามูไรพ่ายแพ้ เขากลายเป็นคนเร่ร่อนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและไม่ใส่ใจต่อกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้ เขาเปิดร้านรับจ้างสารพัดที่ชื่อว่า "โยโรซึยะ" ซึ่งรับทำงานทุกอย่างตั้งแต่การค้นหาของหาย ไปจนถึงการปราบปรามอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังท่าทีเฉื่อยชาและความขี้เกียจของเขา กินโทกิยังคงมีจิตวิญญาณของซามูไรที่แน่วแน่ และพร้อมจะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่เขาเชื่อมั่น เขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ในร้านโยโรซึยะมีสมาชิกอีกสองคนที่ร่วมเดินทางไปกับเขา คนแรกคือ "ชิมูระ ชินปาจิ" เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นตาที่ต้องการสืบทอดวิถีซามูไรจากพี่สาวของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็เป็นคนที่มีจิตใจซื่อตรงและเป็นเหมือนศูนย์กลางของความเป็นเหตุเป็นผลในกลุ่ม อีกคนคือ "คางุระ" เด็กสาวจากเผ่ายาโตะ หนึ่งในเผ่านักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล แม้ว่าเธอจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เธอก็ยังคงเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดี ทั้งสามคนร่วมกันทำงานรับจ้างสารพัดไปทั่วเมืองเอโดะ ซึ่งเต็มไปด้วยบุคคลแปลกประหลาด ทั้งอดีตซามูไรที่พยายามดิ้นรนเอาตัวรอด ขุนนางที่คอยกดขี่ประชาชน และเหล่าอามันโตะที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อควบคุมทุกสิ่ง พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลมากมาย รวมถึง "ชินเซ็นงุมิ" กองกำลังตำรวจพิเศษที่คอยรักษาความสงบเรียบร้อยของเมือง แม้ว่าจะเป็นองค์กรที่ภายนอกดูแข็งแกร่งและดุดัน แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่แพ้กัน เรื่องราวของกินโทกิและพรรคพวกไม่ได้มีเพียงแค่ฉากแอ็กชันและการต่อสู้กับศัตรู แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบเสียดสีสังคม มุกตลกที่ไร้เหตุผล และช่วงเวลาที่อบอุ่นหัวใจ พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยอย่างการตามหาสัตว์เลี้ยงที่หายไป ไปจนถึงการต่อสู้เพื่อช่วยเหลืออดีตสหายที่ตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะดูไร้จุดหมายและไม่มีแผนการที่ชัดเจน แต่เบื้องลึกภายในใจของกินโทกิยังคงมีอดีตที่เขาไม่อาจลืมได้ สงครามในอดีตทำให้เขาสูญเสียเพื่อนร่วมรบที่สำคัญไป และมันกลายเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันหาย แม้ว่าเขาจะทำตัวเป็นคนไม่เอาไหน แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญ เขาก็พร้อมจะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องคนรอบตัว ขณะที่เรื่องราวดำเนินไป กินโทกิและพรรคพวกต้องเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชญากรลึกลับที่มีเป้าหมายโค่นล้มอำนาจของอามันโตะ กลุ่มผู้ปกครองที่สมคบคิดกับเหล่าเอเลี่ยนเพื่อกดขี่ประชาชน หรือแม้แต่เงามืดจากอดีตของเขาเอง ทุกความท้าทายที่ผ่านเข้ามาทำให้พวกเขาเติบโตขึ้น ทั้งในฐานะนักสู้และในฐานะเพื่อน สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นไม่ใช่แค่ฉากต่อสู้ที่ดุเดือดหรือฉากตลกที่ทำให้หัวเราะจนท้องแข็ง แต่เป็นการถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ลึกซึ้งและมีพัฒนาการตลอดเรื่องราว กินโทกิอาจดูเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรในโลก แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับพวกพ้องและพร้อมจะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องพวกเขา คางุระและชินปาจิเองก็เติบโตขึ้นจากการเดินทางร่วมกับเขา และได้เรียนรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า "ซามูไร" แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไป และวิถีซามูไรจะถูกลืมเลือนไปจากประวัติศาสตร์ แต่ในใจของกินโทกิและพรรคพวก วิถีแห่งซามูไรยังคงมีอยู่เสมอ ไม่ใช่เพราะพวกเขาถือดาบหรือเพราะพวกเขาต่อสู้กับศัตรู แต่เป็นเพราะพวกเขายืนหยัดเพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่น และปกป้องผู้คนที่พวกเขาห่วงใย นั่นคือแก่นแท้ของจิตวิญญาณซามูไรที่แท้จริง เรื่องราวของกินโทกิและพรรคพวกอาจไม่มีจุดหมายที่ชัดเจน ไม่มีภารกิจยิ่งใหญ่หรือโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ แต่สิ่งที่พวกเขาทำในแต่ละวันคือการมีชีวิตอยู่ในแบบของตนเอง และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับซามูไรผู้เหลือรอดในยุคสมัยที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป