The Waterfront (2025) น่านน้ำสีเทา

Crime Drama Family ซีรีส์ Netflix ซีรีส์ที่จบแล้ว ซีรีส์ฝรั่ง

6.6/10

ดูซีรี่ย์ The Waterfront (2025) น่านน้ำสีเทา

ขอให้ทุกคนดูหนังให้สนุกนะคะ

เรื่องย่อ : ในขณะที่อาณาจักรการประมงอันยาวนานของรัฐนอร์ธแคโรไลนาเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งจากภัยธรรมชาติ ภาวะโลกร้อน กฎหมายการประมงที่เข้มงวดขึ้น และการบุกรุกของอุตสาหกรรมพาณิชย์ขนาดใหญ่ ครอบครัวบัคลีย์ซึ่งเป็นครอบครัวชาวประมงพื้นเมืองที่สืบทอดอาชีพมาตั้งแต่บรรพบุรุษจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างการยึดมั่นในมรดกตกทอดกับการยอมจำนนต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ตระกูลบัคลีย์ประกอบด้วย ลีรอย บัคลีย์ ชายวัยหกสิบต้น ๆ ผู้เป็นเสมือนเสาหลักของตระกูล เขาเป็นชาวประมงผู้มากประสบการณ์ที่ดำเนินกิจการจับปูและปลาในอ่าวพาเมลิโกมาตลอดชีวิต แม้จะประสบความยากลำบากมาตลอดหลายปี แต่ลีรอยก็ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าอาชีพประมงที่เป็นชีวิตและจิตใจของเขานั้นมีค่าเกินกว่าจะละทิ้ง เขาอาศัยอยู่กับแอนนาบีล ภรรยาผู้มุ่งมั่นและอดทนซึ่งอดทนต่อความลำบากเรื่อยมาทั้งชีวิต ลูกชายคนโตของพวกเขาคือ ดีแลน บัคลีย์ อดีตทหารผ่านศึกที่กลับมาบ้านเกิดหลังจากใช้ชีวิตในค่ายฝึกทางทหารนานหลายปี และต้องเผชิญกับภาวะ PTSD ที่กัดกินเขาอย่างช้าๆ ขณะที่ลูกสาวคนเล็กอย่างโคลอี้เลือกจะไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองใหญ่ เพื่อหลีกหนีจากความแร้นแค้นและอนาคตที่ดูไร้ความหวังของครอบครัว แต่เมื่อพายุเฮอริเคนระดับสี่ถล่มชายฝั่งนอร์ธแคโรไลนา ทำลายเรือประมงหลักของครอบครัวจนหมดสิ้น พร้อมทั้งทำลายบ้านหลายหลังและโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือจนเกือบพังยับ การประกันภัยที่ไม่ครอบคลุมและเงินออมที่เหลือน้อยนิดทำให้ครอบครัวบัคลีย์อยู่ในภาวะล้มละลาย ดีแลนจึงเสนอตัวว่าเขาจะกลับไปทำงานให้บริษัทประมงพาณิชย์ที่เขาเคยต่อต้าน เพราะไม่เห็นทางรอดอื่น แต่ลีรอยไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด เขามองว่านั่นคือการทรยศต่อสิ่งที่ครอบครัวสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน โคลอี้ที่ได้ยินข่าวกลับมาเยี่ยมบ้านและได้รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เธอเสนอว่าอาจจะขอทุนวิจัยเพื่อทำโปรเจกต์สารคดีเกี่ยวกับวิกฤติการประมงพื้นเมือง โดยเน้นเรื่องราวของพ่อเธอเป็นกรณีศึกษา และใช้คลิปวิดีโอจากการออกเรือครั้งสุดท้ายของเขาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กลับมาใส่ใจการประมงท้องถิ่น แม้ลีรอยจะลังเลในตอนแรก เพราะไม่อยากให้ครอบครัวเปิดเผยเรื่องส่วนตัว แต่ในที่สุดเขาก็ยอมตกลง โครงการสารคดีดำเนินไปได้ด้วยดี มีนักเรียนจากเมืองใหญ่และนักวิจัยอาสาเข้าร่วม ขณะเดียวกัน ดีแลนก็เริ่มต้นทำงานในเรือขนาดใหญ่ของบริษัทอุตสาหกรรมที่ใช้เรืออวนลากมหาศาลกวาดเอาทุกชีวิตในทะเลขึ้นมาโดยไม่คัดแยก เขาเริ่มตระหนักว่าแม้เงินที่ได้จะดีกว่า แต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นคือชีวิตของสิ่งแวดล้อมทางทะเล และคุณค่าที่ครอบครัวเขาปกป้องมาโดยตลอด ในใจเขาเริ่มเกิดความขัดแย้ง ระหว่างนี้ แอนนาบีลเริ่มล้มป่วยด้วยโรคหัวใจเรื้อรัง ทำให้ลีรอยต้องทำงานหนักขึ้น แม้จะไม่มีเรือหลักแต่เขาก็พยายามซ่อมแซมเรือลำเล็กของปู่เพื่อนำออกหาปลาอีกครั้ง ในค่ำคืนหนึ่งเขาออกทะเลท่ามกลางฝนที่โปรยปราย หวังจะจับปลาเพียงพอขายเพื่อจ่ายค่ายาให้ภรรยา แต่กลับติดอยู่กลางคลื่นลมและต้องดิ้นรนกลับเข้าฝั่ง โคลอี้และดีแลนที่รู้ข่าวรีบออกไปช่วย พายุกลับเข้ามาอีกครั้ง ทำให้ทั้งสามต้องหลบภัยอยู่ในกระท่อมเก่าใกล้ชายฝั่ง ท่ามกลางเสียงฝนที่โหมกระหน่ำ พ่อกับลูกทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างลึกซึ้ง ดีแลนสารภาพว่าเขารู้สึกผิดที่หันหลังให้กับอุดมการณ์ของพ่อ เขายอมรับว่าบริษัทที่เขาทำงานอยู่เป็นหนึ่งในต้นเหตุของปัญหาทางทะเล เขาอยากจะช่วยกอบกู้สิ่งที่หลงเหลืออยู่ ขณะที่โคลอี้สัญญาว่าเธอจะไม่ปล่อยให้มรดกของครอบครัวสูญหายไปกับสายลม ในเช้าวันต่อมา ฟ้าสางพร้อมกับทะเลที่นิ่งสงบ ครอบครัวบัคลีย์เดินกลับสู่ท่าเรือเก่า ที่ยังหลงเหลือโครงไม้ผุพังอยู่บ้าง ดีแลนลาออกจากบริษัท เขาและลีรอยรวมตัวกับชาวประมงพื้นเมืองกลุ่มเล็กๆ ริเริ่มโครงการฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง โดยทำการจับสัตว์น้ำตามฤดูกาลและจำกัดปริมาณ รวมถึงร่วมมือกับโคลอี้เพื่อจัดทำสารคดีที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการประมงพาณิชย์ พร้อมเสียงสะท้อนของคนในชุมชน การต่อสู้อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในทันที แต่ภายในจิตใจของคนในครอบครัวบัคลีย์ การตัดสินใจที่จะยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อคือชัยชนะที่แท้จริง ไม่เพียงแต่พวกเขาได้กลับคืนสู่วิถีดั้งเดิมที่หล่อหลอมพวกเขามา แต่ยังได้ฟื้นฟูสายสัมพันธ์ในครอบครัว ความเข้าใจ และความหวังใหม่ แม้ท้องทะเลจะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่พวกเขาเลือกจะล่องเรือออกไปอีกครั้ง พร้อมด้วยศรัทธาที่เปี่ยมล้นในวันข้างหน้า