Game of Thrones Season 6 (2016) มหาศึกชิงบัลลังก์ ปี 6

Adventure Drama Fantasy HBO Max หนังฝรั่ง หนังภาคต่อ ซีรีส์ที่จบแล้ว ซีรีส์ฝรั่ง

9.0/10

ดูซีรี่ย์ Game of Thrones Season 6 (2016) มหาศึกชิงบัลลังก์ ปี 6

10.51K

ขอให้ทุกคนดูหนังให้สนุกนะคะ

เรื่องย่อ :

"Game of Thrones Season 6" เป็นซีซันที่เต็มไปด้วยจุดพลิกผันสำคัญและการพัฒนาตัวละครที่เข้มข้น หลังจากจบลงอย่างน่าตกใจในซีซันก่อน ซีซันนี้ได้เปิดเผยความจริงหลายประการ พร้อมกับการต่อสู้เพื่ออำนาจที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งปูทางไปสู่บทสรุปอันยิ่งใหญ่ของเรื่องราว

จอน สโนว์ และมหาศึกแห่งบาสตาร์ด จอน สโนว์ (รับบทโดย คิต แฮริงตัน) ถูกสังหารโดยเหล่าผู้คุมป้อมปราการปราสาทดำ แต่เขาถูกคืนชีพขึ้นมาโดยเมลิแซนเดร (รับบทโดย คาริซ ฟาน ฮาวเทน) ด้วยพลังของราชาแห่งแสง การกลับมาของเขาทำให้จอนต้องเผชิญกับคำถามถึงจุดมุ่งหมายในชีวิตและความศรัทธาที่เขาเคยมี เมื่อซานซ่า สตาร์ค (รับบทโดย โซฟี เทอร์เนอร์) หลบหนีออกจากแรมซีย์ โบลตัน (รับบทโดย เอียน รี้น) เธอได้กลับมาหาจอนเพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งสองวางแผนรวบรวมกองทัพจากตระกูลทางเหนือเพื่อยึดคืนวินเทอร์เฟลจากแรมซีย์ ความขัดแย้งนำไปสู่มหาศึกแห่งบาสตาร์ด (Battle of the Bastards) การต่อสู้ที่โหดร้ายและยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในซีรีส์ โดยจอนสามารถเอาชนะแรมซีย์ได้ และซานซ่าลงโทษแรมซีย์อย่างสาสมด้วยการปล่อยให้เขาถูกสุนัขของเขาเองกัดกินจนตาย วินเทอร์เฟลกลับคืนสู่อำนาจของตระกูลสตาร์คอีกครั้ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ และการล้างแค้นในคิงส์แลนดิ้ง ในคิงส์แลนดิ้ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ (รับบทโดย เลนา เฮดดี้) เผชิญหน้ากับอำนาจของไฮสแปร์โรว์ (รับบทโดย โจนาธาน ไพรซ์) และศาสนจักรที่มีอิทธิพลต่อเมือง เธอถูกบังคับให้ยอมรับความพ่ายแพ้และปล่อยให้มาร์เจอรีย์ ไทเรลล์ (รับบทโดย นาตาลี ดอร์เมอร์) ควบคุมทอมเมน บาราเธียน (รับบทโดย ดีน ชาร์ลส์ แชปแมน) ราชาหนุ่มผู้ไร้เดียงสา เซอร์ซีวางแผนแก้แค้นอย่างแยบยล โดยใช้ไฟป่ามหาประลัยทำลายหอคอยเซปต์ออฟเบลเลอร์ในพิธีไต่สวน นำไปสู่การตายของไฮสแปร์โรว์ มาร์เจอรีย์ และผู้คนอีกจำนวนมาก เหตุการณ์นี้ทำให้ทอมเมนสูญเสียความหวังและตัดสินใจฆ่าตัวตาย เซอร์ซีจึงขึ้นครองบัลลังก์เหล็กในฐานะราชินีแห่งเวสเทอรอสอย่างสมบูรณ์ แดเนริส ทาร์แกเรียน และการรวมกองทัพ แดเนริส ทาร์แกเรียน (รับบทโดย เอมิเลีย คลาร์ก) ถูกจับโดยเผ่าโดธราคี และถูกนำตัวไปยังคาลาซาร์เพื่อถูกพิพากษา แต่เธอกลับพลิกสถานการณ์ โดยใช้พลังและอำนาจของตนเองในการเผาทำลายเหล่าหัวหน้าเผ่าทั้งหมด จนทำให้เธอกลายเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากชนเผ่าโดธราคีอีกครั้ง แดเนริสกลับมาที่เมืองมีรีนและสามารถยุติความขัดแย้งภายในเมืองได้ด้วยความช่วยเหลือจากทีเรียน แลนนิสเตอร์ (รับบทโดย ปีเตอร์ ดิงค์เลจ) เธอรวบรวมกำลังพลทั้งกองทัพโดธราคี, กองทัพทาสที่เป็นอิสระ และมังกรทั้งสามตัว เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกลับเวสเทอรอสเพื่อทวงคืนบัลลังก์ แบรน สตาร์ค และการค้นพบความลับ แบรน สตาร์ค (รับบทโดย ไอแซค เฮมป์สเตด ไรท์) ฝึกฝนพลังกับอีกา 3 ตา (Three-Eyed Raven) จนได้เรียนรู้ถึงความลับของอดีตและอนาคต เขาได้เห็นความจริงเกี่ยวกับกำเนิดของไวท์วอล์คเกอร์ และความลับที่ซ่อนอยู่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของจอน สโนว์ ที่แท้จริงแล้ว จอนคือบุตรของลียาน่า สตาร์คและเรการ์ ทาร์แกเรียน ซึ่งทำให้เขามีสิทธิ์ในบัลลังก์เหล็ก แบรนยังต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของไนท์คิงและกองทัพไวท์วอล์คเกอร์ การต่อสู้นี้นำไปสู่การเสียชีวิตของอีกา 3 ตาและฮอดอร์ ผู้สละชีวิตเพื่อปกป้องแบรนและมีราห์ ในฉากสุดสะเทือนใจที่ไขปริศนาคำว่า "Hold the Door" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ บทสรุป: ซีซัน 6 ของ "Game of Thrones" เป็นซีซันที่มอบจุดไคลแมกซ์หลายจุดให้กับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการคืนชีพของจอน สโนว์, การล้างแค้นของเซอร์ซี แลนนิสเตอร์, และการรวมกองทัพของแดเนริส ทาร์แกเรียน เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นการปูทางไปสู่การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า ในขณะเดียวกัน การเปิดเผยความลับเกี่ยวกับต้นกำเนิดของจอน สโนว์ ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น ซีซันนี้ยังโดดเด่นในแง่ของงานสร้างและการถ่ายทำ โดยเฉพาะฉากมหาศึกแห่งบาสตาร์ดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในฉากสงครามที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์ ด้วยการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นและหักมุมอย่างต่อเนื่อง ซีซัน 6 ของ "Game of Thrones" จึงเป็นซีซันที่ตราตรึงใจแฟน ๆ และสร้างความคาดหวังสูงสุดสำหรับบทสรุปของซีรีส์ในซีซันถัดไป